95.5 Virgin Hitz ได้รับเกียรติให้เข้าชมโชว์ "องค์บากไลฟ์" ที่รวมเอาสุดยอดศิลปะการต่อสู้สุดสมจริงทุกแขนงในแบบเล่นจริง เจ็บจริง ผสมผสาน เทคนิคพิเศษ ฉากสุดอลังการ และ แสง สี เสียง ที่จะทำให้คุณตื่นเต้นทุกลมหายใจ โดยการนำทีมของ วินิจ เลิศรัตนชัย ผู้สร้างปรากฏการณ์ในทุกๆ ผลงานที่ปรากฎ ในฐานะผู้อำนวยการสร้าง เมื่อได้รับคำเชิญ ประโยคแรกที่เราได้เอ่ยออกไปคือ "ช้างกูอยู่ไหน" และก็ได้พบคำตอบจากทีมงานว่า 

 

1. จากวลีติดปากที่ว่า "ช้างกูอยู่ไหน" ไม่ได้มาจากภาพยนตร์เรื่อง "องค์บาก" หากแต่เป็นวลีที่มาจากภาพยนตร์เรื่อง "ต้มยำกุ้ง" โดยมี จา พนม เป็นนักแสดงนำทั้ง 2 เรื่อง ดังนั้น ใน "องค์บากไลฟ์" จึงไม่พบวลีดังกล่าว ในการตลอดการโชว์ ...หน้าแตกเลยสิเรา!

 

 

2. ไม่ใช้สลิง ไม่ใช้ตัวแสดงแทน ใช้ไม่ได้ใน "องค์บากไลฟ์" เพราะ องค์บากไลฟ์ คือ รูปแบบการแสดงใหม่ที่แตกต่างจากฉบับภาพยนตร์ หรือเรียกว่า "เรียล แอคชั่น ไลฟ์ โชว์" คือ การแสดงสดที่ไม่มีการผ่านมุมกล้อง ไม่มีการตัดต่อภาพ ทุกอย่างต้องเกิดขึ้นสดๆ แบบ Real Time บนเวทีแบบม้วนเดียวจบ ดังนั้น ตลอดการโชว์ 75 นาที งานสลิงต้องมี เพราะทางทีมผู้สร้างเน้นความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง นักแสดงแทนต้องมี 

 

3. ที่ทิ้งท้ายไว้ในข้อ 2 ว่า "นักแสดงแทนต้องมี" เพราะการแสดงโชว์แบบสดๆ ความยาว 75 นาที หากจะใช้นักแสดงหลักเพียงหนึ่งเดียว คงเป็นเรื่องที่เหนื่อย และยากเกินไป ดังนั้น นักแสดงสตั๊นแมน ที่รับบท "บุญทิ้ง" จึงมีมากถึง 5 คน พวกเขาสลับสับเปลี่ยนกันโชว์ตลอด 75 นาที แต่เชื่อหรือไม่ว่า พวก เขาแสดงโชว์ได้อย่างเนียน และสมจริง ไม่ทำให้รู้สึกสะดุด และมี 1 ใน 5 นักแสดงสตั๊นแมนมีหน้าตาละม้ายคล้าย "จา พนม" นักแสดงเลือดนักสู้ มากๆ

 

 

4. นักแสดงที่มารับบท "อ้ายหำแหล่" และ "หมวยเล็ก" ในโชว์ "องค์บากไลฟ์" แม้จะดูห่างไปจากภาพยนตร์ แต่ความฮา และตลก ขอให้คะแนนเต็ม 100 เพราะการทำโชว์ลักษณะนี้ กลุ่มเป้าหมายหลัก คือ นักท่องเที่ยว เป็นโชว์ที่ไม่มีการสื่อสาร หรือ ไม่มีบทพูดนั่นเอง หากแต่เป็นการแสดงออกผ่านท่าทางเท่านั้น แต่ 2 นักแสดงที่มารับบท "อ้ายหำแหล่" และ "หมวยเล็ก" บอกเลยว่า "คุณสอบผ่าน" เพราะทุกการแสดงของคุณ ทำลูกทัวร์ ในฮอลล์ฮาสนั่น ชนิดตบเข่าฉาก

 

5. สเปเชียล เอฟเฟค สมจริงเบอร์ 10 ภายใต้การทุ่มทุนสร้างมหาศาลกว่า 300 ล้านบาทของบริษัท อุลตร้า ไทเกอร์ จำกัด ออกแบบ และควบคุมฉากแอคชั่น โดยปรมาจารย์แอคชั่นอันดับหนึ่งของไทยผู้ล่วงลับไปแล้วอย่าง พันนา ฤทธิไกร มีการคงอรรถรสของการต่อสู้ที่หนักหน่วง สมจริง ไม่แพ้ในภาพยนตร์ แต่จะเต็มไปด้วยความท้าทายมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว 

 

 

6. ฉากสำคัญที่มีในภาพยนตร์เรื่อง "องค์บาก" ถูกนำมาถ่ายทอดใน "องค์บากไลฟ์" ครบทุกฉาก โดยทีมผู้สร้างได้เนรมิตฉากสำคัญอันโด่งดัง 6 ฉากจากภาพยนตร์ อาทิ ต้นไม้ของผู้กล้า, ถนนนักสู้, ดับเดือด, มวยลอยฟ้า, ตุ๊ก ตุ๊ก เหิน และสมรภูมิสุดท้าย รวมถึงระบบไฮโดรลิคพิเศษต่างๆ ฉากหลังที่สวยงาม เพิ่มสีสันความตระการตาอย่างถึงขีดสุดปรากฏบนจอ LED ขนาดมหึมาขนาด 14 x 8 เมตร ด้วยความละเอียดสูงสุด ใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นในไลฟ์โชว์ของเมืองไทย 

 

 

7. ทีมผู้สร้างได้ยกแลนด์มาร์คสำคัญๆ ของกรุงเทพมหานครมาไว้บนเวทีโชว์ ไม่ว่าจะเป็น ตรอกข้าวสาร, เยาวราช และเสาชิงช้า บอกเลยว่าดูโชว์ไป สร้างแลนด์มาร์คไป เป็นการโปรโมทการท่องเที่ยวของกรุงเทพมหานครได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีการนำเอา "การละเล่น" ของไทย อย่าง ลาวกระทบไม้ และ เดินไม้ไผ่ มาละเล่นผ่านการแสดง ทำผู้ชมตรึงใจ

 

 

8. "องค์บากไลฟ์" คือการทำงานของ "ซุปเปอร์ดรีมทีม" นอกจากทีมงานของ วินิจ เลิศรัตนชัย ในฐานะผู้อำนวยการสร้างแล้ว ยังได้ "ปรัชญา ปิ่นแก้ว" ผู้กำกับภาพยนตร์องค์บาก มาเป็นผู้กำกับองค์บากไลฟ์ นี้ด้วยเช่นกัน, บอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ, ทีม SCENARIO อันดับหนึ่งของเมืองไทยในงานละครเวที มาควบคุมงานสร้าง การออกแบบฉาก สุดท้ายกับทีมสตันท์ที่เก่งที่สุดในเมืองไทย "PANNA STUNT" 

 

 

9. ราคาบัตร 2,500(VIP),  2,000, และ 1,500 บาท บอกเลยว่าคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ กับโชว์ "องค์บากไลฟ์" ตลอดทั้ง 75 นาที  มาร่วมพิสูจน์ปรากฏการณ์ความมันส์แบบ เรียล แอคชั่น ไลฟ์ โชว์ ที่โรงละคร ULRA ARENA  ชั้น 6 ของ SHOW DC ศูนย์การค้าแห่งใหม่ย่านพระราม 9 จองบัตร และติดตามรอบการแสดงได้ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา หรือ www.thaiticketmajor.com

 

 

10. ขอยกข้อ 10 นี้ให้ผู้ที่ไปชม "องค์บากไลฟ์" มาแชร์ความประทับใจกัน ...เราในฐานะที่ไปชมมาแล้ว ขอบอกเลยว่า องค์บากไลฟ์ สนุก สะดุ้ง และสบถ ไปกับทุกฉากทุกตอน ประทับสุดๆ กับฉาก "ตุ๊ก ตุ๊ก เหิน" เพราะมันทำให้เรา "สบถ" ออกมาว่า "มันจะหล่นใส่หัวตูไหม" ไม่ใช่ไร มันเหินอยู่เหนือหัวที่เรานั่งชมนั่นเอง, สะดุ้งไปกับสเปเชียล เอฟเฟค ระเบิดมา ปืนมา มาแบบไม่ถงไม่ถามคิวความสะดุ้งกันเลย และสุดท้ายกับสนุก อย่างที่เขียนไว้ก่อนหน้าว่า ขนาดลูกทัวร์ชาวต่างชาติที่นั่งชมในฮอลล์ยังฮาสนั่น แล้วเราในฐานะคนไทย ที่ดูทั้งภาพยนตร์มาแล้ว ยังต้องฮาให้กับ องค์บากไลฟ์ เช่นกัน ...มีเพื่อนบอกเพื่อน มีแฟนชวนแฟน มีครอบครัวพากันมาชม องค์บากไลฟ์ ครบทุกอรรถรส ระห่ำตลอด 75 นาที 

 

เรื่องย่อ

"องค์บาก" พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นที่เคารพบูชายิ่งของหมู่บ้านหนองประดู่ถูกขโมยตัดเศียรไป บุญทิ้ง ชายหนุ่มจิตใจดีผู้ชำนาญเรื่องแม่ไม้มวยไทยและยึดถือความถูกต้องจึงรับอาสาออกตามหาที่กรุงเทพฯ ภารกิจนี้ไม่ต่างกับการงมเข็มในมหาสมุทร เพราะเขาไม่รู้จักกรุงเทพฯ ไม่รู้จักใคร และไม่รู้แม้แต่วี่แววของขโมยใจหยาบ แต่เหมือนโชคชะตาจะเข้าข้างเมื่อบุญทิ้ง ได้ช่วย ยอร์จ  และ หมวย คู่รักนักต้มตุ๋นตัวแสบแห่งถนนข้าวสารจากแก๊งมาเฟียโดยบังเอิญ  และพบว่าแก๊งมาเฟียกลุ่มนี้คือกลุ่มที่อันตรายที่สุดเพราะพัวพันในธุรกิจมืดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมวยเถื่อน นักชกข้างถนน พวกค้ายาเสพติดรวมถึงตัวการใหญู่ธุรกิจผิดกฏหมายข้ามชาติ แต่ก็เป็นกลุ่มที่บุญทิ้งต้องการตัวที่สุดด้วย เพราะแก๊งนี้อยู่เบื้องหลังการขโมยเศียรองค์บากที่เขาตามหาอยู่ ทางเดียวสำหรับไอ้ทิ้งที่ต้องทำคือต้องพึ่งจิตศรัทธาอันมุ่งมั่น และใช้ความสามารถในศิลปะการต่อสู้ในเชิงหมัดมวย หมัด เท้า เข่า ศอก เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีและสมบัติของชาติกลับคืนมาโดยมีชีวิต และจิตวิญญานแห่งการต่อสู้เป็นเดิมพัน โดยมีทั้ง ยอร์จ และ หมวย เป็นผู้ช่วยจำเป็นในครั้งนี้.