เป็นอีกหนึ่งบทความดีๆ ที่ถูกแชร์สนั่นโลกโซเซียล อยากให้ทุกคนได้อ่าน มันดีมากจริงๆ สำหรับบทความที่ลูกสาวเขียนถึงแม่ที่เป็นเท้าแสนปม โดยบทความนี้เขียนโดยผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Naruemol Sae-eng ข้อความระบุว่า
"วันนี้เราจะมาเล่าเรื่อง แม่ของเรา ให้ฟัง ไม่ดราม่านะ ยาวมากกด้วย
หลายคนคงเคยเห็นเเม่เรา ไม่ว่าจะเป็นรูปหรือตัวจริง
บางคนอาจจะไม่กล้าถามว่า แม่เป็นอะไรในสมัยก่อนที่ยังไม่สามารถหาใน google ได้ 555
แม่เราเป็นโรค ท้าวเเสนปม หรือเรียกชื่อเเบบฝรั่งๆคือ
neurofibromatosis (NF) (อ่านว่าอะไรคะเนี่ย )
บอกเป็นความรู้ของโรคไว้ว่า พบประมาณ 1 ใน 2,500 ถึง 3,500 คน
สามารถวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้ โดยพบอาการต่อไปนี้อย่างน้อย 2 ใน 7 อาการ
- ปานสีกาแฟใส่นมอย่างน้อย 6 ตำแหน่ง
- พบก้อนเนื้องอกตามผิวหนัง 2 ตุ่มขึ้นไป
- พบกระที่บริเวณรักแร้ หรือขาหนีบ
- พบเนื้องอกของเส้นประสาทตา
- พบเนื้องอกของม่านตา 2 แห่งขึ้นไป
- พบความผิดปกติของกระดูก
"มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ "
มันเป็นโรคทางพันธุกรรมน่ะ ไม่ใช่โรคติดต่อใดๆ สามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้
กินข้าว ดูหนังฟังเพลง นอน บลาๆๆ ได้ปกติ เเต่จะเสี่ยงมากถ้า มีลูก เพราะลูกอาจจะเป็น
ซึ่ง พี่ชาย เเละ เรา อาจจะเป็น โรคนี้
พี่ชายเราทั้งสองคนเป็นเเล้ว ผิวหนังที่เป็นตุ่มๆจะขึ้นมากตามอายุ เเล้วเเต่ร่างกายเเต่ละคน
ส่วนเรา เท่าที่สังเกตตัวเอง เรายังไม่เป็น ... มันจะมีเเต่ปานที่ขึ้นเยอะหน่อย
ตอนเด็กๆ แม่บอกเสมอว่า เนี่ย อีกหน่อยโตขึ้นเป็นเเบบหม้าม้า อีฟจะทำยังไง
เราเป็นเด็กโลกสวย เราก็ตอบว่า ช่างมันดิ 555
เเต่พอเริ่มโต ความจริงมันก็ปรากฎว่า บางที คนทุกคนก็ใช่ว่าจะยอมรับได้
เวลาไปโรงเรียน เราจะสังเกตได้ชัดว่า จะมีพ่อเเม่ผู้ปกครองหรือเเม้เเต่ครูบางคน
เค้ารังเกียจเเม่เรา หรือเเสดงกริยาไม่น่ารักกับเเม่เรา หรือรวมทั้งเราด้วย
ห้ามไม่ให้ลูกมาเล่นกับเราก็มี เเต่ตอนนั้นเราก็ไม่เเคร์นะ เพราะ มันก็มีพ่อเเม่คนอื่นๆที่น่ารัก เเละ มีเพื่อนที่เค้าเข้าใจเเละไม่รังเกียจเรา
พอเราเริ่มโต เเม่ก็เริ่มไม่ไปประชุมผู้ปกครอง จะให้พ่อไปแทน ไม่ก็พี่ชาย
เเต่พี่ชายเวลาไปทีไร ชอบมีคนทักว่าเป็นพ่อ ห่างกันตั้ง 10 ปี 5555
เเต่เราพอรุ้เหตุผลที่เเม่ไม่ยอมไป เพราะ เค้าคงกลัวเราอาย หรือไม่เค้าก็คงอายไม่ชอบเจอสายตาแปลกๆเเบบนั้น เราเกลียดมากเลย เวลาคนมองด้วยสายตาเเปลกๆ
เราอะ เคยมีช่วงที่เปลี่ยน รร เปลี่ยนสังคม เราเคยไม่อยากให้เพื่อนมาบ้าน ไม่อยากให้เพื่อนมารุ้จักแม่ เพราะเรากลัวเค้าไม่เข้าใจเเละรังเกียจ เเต่จริงๆเเล้ว เราโชคดีมาก ที่เรามีเพื่อนที่เค้าไม่รังเกียจ เเละเป็นห่วงเเละรักเเม่เรา รวมถึงตัวเราด้วย
เวลามีเพื่อนมาสัมผัสตัวเเม่เรา เราดีใจนะ ที่เค้าไม่คิดรังเกียจเลย ^^
พอโตขึ้นมาอีกหน่อย เราเคยลองใจพาผู้ชายเข้าบ้าน มาลองเจอแม่ด้วย 5555
อยากรู้ว่าจะรับได้มั้ย สุดท้าย เหมือนจะรับได้ เเต่ก็รับไม่ได้นะ
เเต่เอาจริง เราไม่เคยโกรธเค้าเลย เราเข้าใจนะ คนเรามีสิทธิ์เลือกอะไรให้กับตัวเอง
เพราะถ้ามองกลับกัน เราก็ไม่รู้ว่าเราจะรับได้มั้ย
เราไม่รู้หรอก ว่าในอนาคตเราจะเป็นเเบบเเม่มั้ย เเต่เเม่บอกว่า ถ้าเลย สามสิบ มันก็คงไม่ขึ้นเเล้วเเหละ เพราะ เเม่กับพี่ชาย เริ่มมีตุ่มขึ้นตั้งเเต่ สิบกว่าๆ เเล้ว เเม่บอกให้ไหว้พระเยอะๆ เเละอย่ากินของมันๆ ของทอด เห้อ อร่อยด้วย
เราโชคดีที่เคยมีพ่อ ที่รักเราเเละเลี้ยงดูเราจนเติบใหญ่
มีพี่ชายสองคน พี่คนโต เราไม่ค่อยถูกกับมัน เเต่เราก็พอรู้ว่า มันก็ยังรักเเละเอ็นดูเรา
มีพี่ชายคนกลางที่เป็นเหมือนพ่อคนที่สอง ตั้งเเต่พ่อเราเสียไป พี่ชายที่เป็นเสาหลักของบ้าน เป็นที่พึ่งพิงให้กับเเม่เเละน้องสาว
เเม้เเม่เรารูปลักษณ์ภายนอกอาจจะไม่เหมือนเเม่คนอื่นๆ อาจจะไม่สวยงาม
เเต่เเม่เราคนนี้ ก็เลี้ยงเรามาจนอายุป่านนี้ ให้ทุกอย่างที่มนุษย์พึ่งมี
ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยสี่ การศึกษา เงินทอง เเละความรัก ที่เเม้ที่ไม่ค่อยเเสดงออก
แม่เราเก็บเงินเก่งมาก เเม่บอก ที่เก็บก็เก็บให้พวกมึง พวกมึงอีกหน่อยจะได้ไม่ลำบาก
เพราะเราก็ไม่เหมือนคนอื่น
เราคิดไว้ว่า ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เราจะพยายามดูเเม่เราเป็นตัวอย่าง
เเม่ผ่านอะไรมามากมาย เคยจะถูกพ่อเลิก เเต่สุดท้ายก็อยุ่ดูแลกันจนตายไปข้างนึง
เเม่บอกว่า มีครอบครัวได้ ถ้าหาสามีดีๆเเละรับเราได้ 55555 เเต่อย่ามีลูกเลย
สมมุติเราไม่เป็น ลูกเป็น ก็ไม่อยากให้เค้าเจ็บปวด ซึ่งเรื่องนี้ เราเคยบอกตัวเองอยู่เหมือนกัน ว่าเราก็ไม่ได้อยากมีลูก เเต่ให้มันเป็นเรื่องของอนาคต วิวัฒนาการทางการเเพทย์อาจจะช่วยได้ จริงๆเเม่บอก ถ้ามีเงิน อยุ่คนเดียวสบายใจกว่า 555555
เเละเราขอบคุณที่เรามีเพื่อนดีๆที่เข้าใจครอบครัวเราเสมอมา
*รูปนี้ถ่ายหน้าบ้านที่อยู่มาตั้งเเต่เกิด 27 ปี ผ่านพ้นไป
* เวลาเจอคนเป็นโรคนี้อย่ารังเกียจเค้าเลยนะ มันก็คือผิวธรรมดา เเต่เหมือนมีกราฟฟิคเพิ่มเติม อิอิ
* ขอบคุณที่อ่านจนจบ"
อ่านจบบอกเลยน่ารักมากค่ะลูกสาว ><